บทบาทสำคัญ "หย่งเจิ้น - เจินหวน" ในประวัติศาสตร์จีน
ฮ่องเต้หย่งเจิ้น (ยงเจิ้ง) และ เจินหวน หรือตามในประวัติศาสตร์ต่อมา คือ จักรพรรดินีเสี้ยวเชิ่งเซี่ยน มีบทบาทสำคัญอย่างไรต่อประวัติศาสตร์ ในช่วงระหว่างที่ประเทศจีนรุ่งเรืองถึงขีดสุด
ฮ่องเต้หย่งเจิ้น (ยงเจิ้ง) นับว่าเป็นจักรพรรดิที่ขยันขันแข็งมาก ได้ปฏิรูปรูปแบบการปกครอง การบริหารเอาไว้หลายด้าน กิจวัตรของพระองค์ที่ปฏิบัติเป็นประจำ คือ ทรงตื่นบรรทมแต่ก่อนรุ่ง เข้าบรรทมในยามดึกเพราะอ่านฎีกาจนดึกดื่น ทรงรวบอำนาจ จัดสรรระบบภาษี การเงินการคลัง และขจัดการฉ้อราษฎร์บังหลวงจนถือว่าเป็นช่วงสืบทอดยุคความรุ่งเรืองต่อมาใน 3 รัชกาลนี้ (คังซี-ยงเจิ้ง-เฉียนหลง) จนสามารถยังผลให้ประเทศจีนรุ่งเรืองถึงขีดสุดในยุคของจักรพรรดิเฉียนหลง พระโอรสของพระองค์ที่ครองราชสมบัติต่อ
เจินหวน หรือตามในประวัติศาสตร์ต่อมา คือ จักรพรรดินีเสี้ยวเชิ่งเซี่ยน เป็นพระมเหสีในจักรพรรดิยงเจิ้งและเป็นที่รู้จักดีในฐานะพระราชมารดาในจักรพรรดิเฉียนหลง ทรงเป็นสตรีที่มีธรรมะนำพระทัยอยู่เสมอ ทรงมีความเมตตากรุณา แต่ลักษณะเด่นก็คือ ทรงเป็นสตรีที่ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย สมถะ ชอบประทับอยู่แบบสงบ
"Empresses in the Palace เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน" เป็นเรื่องราวสมัยฮ่องเต้หย่งเจิ้น ราชวงศ์ชิง มีการคัดเลือกหญิงสาวเข้าถวายตัวเป็นพระสนม เจินหวน ธิดาของใต้เท้าเจินหยวนเต้าเป็นหนึ่งในนั้น นางไม่ต้องการได้รับคัดเลือก โชคชะตาทำให้ได้เข้าวังเป็นพระสนม พร้อมกับเหม่ยจวง เพื่อนและพี่สาวที่เติบโตมาด้วยกัน รวมทั้งได้เจอกับอันหลิงหรง ธิดาขุนนางเล็กๆ ทั้งสามมีสัมพันธ์ดั่งพี่น้อง เจินหวน ไม่ได้มีความต้องการในลาภยศ ขอเพียงแค่ได้พบรักแท้ แต่เธอกลับต้องติดอยู่ในวังวนแห่งการช่วงชิงภายในวังหลวง ซึ่งมากด้วยเล่ห์เหลี่ยม