KING OF MONSTERS "Shin Godzilla"
ต้นฉบับของแท้จากสตูดิโอโตโฮผู้ให้กำเนิดก็อดซิลล่า ครั้งแรกในรอบ 12 ปี ที่ล่าสุดเดินหน้ากวาดรายได้ และสร้างสถิติใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในตารางบ๊อกซ์ออฟฟิศญี่ปุ่น สูงกว่า 60 ล้านเหรียญ หรือราว 6 พันล้านเยน จากจำนวนผู้ชมกว่า 4.1 ล้านคนที่ตีตั๋วเข้าชมในประเทศญี่ปุ่น พร้อมยังขึ้นแท่นเป็นหนัง Live Action ที่ทำรายได้สูงสุดในญี่ปุ่น รวมทั้งยังทำให้แฟรนไชส์ ก็อดซิลล่า กลายเป็นแฟรนไชส์แนว Live Action ที่มีจำนวนผู้ชมเกิน 100 ล้านคน ซึ่งนับเป็นจำนวนผู้ชมสูงสุดตลอดกาลในญี่ปุ่นไปแล้วแบบเหนือความคาดหมาย
ก็อดซิลล่าภาคนี้ถือว่าเป็นก็อดซิลล่าที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาคือมีความสูงถึง 118.5 เมตร มีน้ำหนักตัวมากถึง 92,000 ตัน ลมหายใจอัดแน่นไปด้วยพลังปรมาณูที่พังทั้งเมืองได้ในเสี้ยววินาที ที่ผิวหนังนั้นแข็งขรุขระพร้อมรอยแตกสีแดงไม่ต่างจากลาวาร้อน ก็อดซิลล่าในภาคนี้มีฟันที่น่ากลัวที่สุด อัดแน่นไปด้วยเขี้ยวคมที่พุ่งทะแยงไปทุกทิศทางนับร้อยๆซี่ มีดวงตาที่มีความคล้ายกับมนุษย์มากที่สุด มือที่ดูแคระแกรน บิดเบี้ยว แสดงถึงความเจ็บปวดและความสยดสยอง ฝ่าเท้าที่ยาวถึง 28 เมตร กว้างถึง 22 เมตร มีขนาดเท่ากับรถจอดต่อกันถึง 7 คัน ส่วนหัวคล้ายกลุ่มแก๊สร้อนที่พุ่งสู่ท้องฟ้าของระเบิดนิวเคลียร์ และมีส่วนยางยาวที่สุดตั้งแต่เคยมีมา แต่พลิ้วไหวและว่องไว
ผลงาน Shin Godzilla เวอร์ชั่นนี้เป็นของผู้กำกับ ฮิเดอากิ อันโนะ ที่เคยผ่านผลงานจาก Evangelion เขามีวิธีการนำเสนอเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสะท้อนออกมาในเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน จังหวะการเล่าเรื่อง ดนตรีประกอบ ไปจนถึงวิธีการนำเสนอตัวตนของก็อดซิลล่าตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ Shin Godzilla นำเสนอ คือ การผสมผสานระหว่างการเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ถ่ายทอดออกมาเมื่อมหาวิบัติภัยครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ที่ทุกคนต่างตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญหน้าและรับมือ มากกว่าการเป็นเพียงแค่ภาพยนตร์สัตว์ประหลาดทำลายล้างแต่เพียงอย่างเดียว
เสียงวิจารณ์จากผู้ชมตลอดจนเหล่าบรรดาแฟนพันธุ์แท้ ชาวญี่ปุ่น ชาวต่างประเทศจากทั่วโลกที่ต่างบินมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในปรากฎการณ์ครั้งสำคัญของการกลับมาถล่มจอครั้งนี้ ต่างชื่นชอบ และชื่นชมต่อก็อดซิลล่าต้นฉบับกันอย่างถ้วนหน้า เพราะคงเอกลักษณ์ความคลาสสิคที่มีลักษณะเฉพาะตัว และสตูดิโอโตโฮผู้ให้กำเนิดยังได้สร