การต่อยอดตำนานที่เหนือชั้น "Ripper Street Season Four"
กลับมาอีกครั้งกับการแข่งขันโชว์กึ๋นแห่งวงการอาชญากรรม ผ่านทางถนนที่ขึ้นชื่อว่าเสื่อมโทรมอย่าง Whitechapel ในซีรีส์ระทึกขวัญสุดโลดโผนเรื่องนี้ ที่ยังคงความคมชัดของบทสนทนาและการวางโครงเรื่องที่เป็นเลิศ โดยไม่จำเป็นต้องไปยึดติดกับประวัติศาสตร์ของฆาตกรต่อเนื่อง Jack the Ripper แต่ได้ต่อยอดตำนานให้คนดูตื่นเต้นถึงความลึกลับของฆาตกรต่อเนื่องได้อย่างน่าสนใจ มาพร้อมกับนักแสดงนำที่เป็นที่รู้จักสำหรับคอหนังและคอซี่รี่ส์ เช่น Matthew Macfadyen จาก Pride & Prejudice, Jerome Flynn จาก Game of Thrones และ Adam Rothenberg จาก Tennessee
ทีวีซีรี่ส์ Ripper Street ชนะรางวัล BAFTA Television Craft Award 2014 สาขา Production Design / ชนะรางวัล Irish Film and Television Awards (IFTA Award) 2013 - 2014 สาขา Best Makeup & Hair (ชนะในปี 2013), Best Production Design (ชนะในปี 2013), Best Director of Photography (Film/TV Drama) (ชนะในปี 2014) / ชนะรางวัล Ivor Novello Awards 2014 สาขา Best Television Soundtrack
สำหรับเหตุการณ์ในช่วงฤดูกาลที่ 1 และฤดูกาลที่ 2 ส่วนใหญ่จะเปิดฉากในปี 1889 เดือน เมษายน 6 เดือนหลังจากการฆาตกรรมครั้งสุดท้ายของ Jack the Ripper พบศพหญิงสาวคนหนึ่งถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม และมีเครื่องหมายแสดงว่าเป็นฝีมือของ the Ripper อยู่บนร่างกายเธอ ทางตำรวจจะต้องทำทุกวิถีทางที่จะตามล่าหาตัวฆาตกร ก่อนที่จะมีเหยื่อรายต่อไป
ฤดูกาลที่ 3 เราได้เห็นความขัดแย้งจนนำมาสู่การแบ่งแยกทีมการต่อสู้คดีอาชญากรรมที่มีพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงสูงระหว่างสารวัตร Edmund Reid (Matthew Macfadyen, Pride & Prejudice), สิบเอก Bennet Drake (Jerome Flynn, Game of Thrones) และ ร้อยเอก Homer Jackson (Adam Rothenberg, Tennessee) ซึ่งสมาชิกทั้งสามคนต่างต้องตกอยู่ในสถานการณ์แห่งความวุ่นวาย แต่แล้วพวกเขาก็ค้นพบด้วยตัวเองว่าจะต้องกลับมารวมตัวกันใหม่ และทิ้งอดีตของความขัดแย้งไว้เบื้องหลัง หลังจากเหตุการณ์ที่นำไปสู่การปล้นรถไฟ จนเกิดอุบัติเหตุของหัวรถจักรขนาดมหึมา การสืบคดีของพวกเขาได้นำไปสู่การค้นพบการกระทำความผิด เปรียบดังห่วงโซ่ที่เชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆเข้าด้วยกัน ที่กำลังจะมาสร้างความหายนะผ่านทางถนนโกโรโกโสโทรมๆ อย่าง Whitechapel