จากนาย "ทองดี ฟันขาว" สู่ "พระยาพิชัยดาบหัก"
ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดแนวแอ็คชั่นอิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปีของผู้กำกับมากฝีมือ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ในเรื่องราวการเดินทางผจญชีวิตครั้งสำคัญของ จ้อย หรือ ทองดี ทหารเอกคู่ใจแห่งพระเจ้าตากสินมหาราช และกลายเป็นวีรบุรุษของชาวไทยที่รู้จักกันในนาม พระยาพิชัยดาบหัก รับบทโดย บัวขาว บัญชาเมฆ ซูเปอร์สตาร์นักมวยไทยชื่อก้องโลกกับการแสดงในบทนำเต็มตัวเรื่องแรก
เป็นเรื่องราวชีวิตนักสู้ที่ต้องระหกระเหินจากครอบครัวตั้งแต่เด็กจนต้องออกเดินทางหาเงินเลี้ยงตัวเอง และเรียนรู้ฝึกฝนวิชาหมัดมวยจากครูมวยตามเมืองต่างๆ ทำให้เขาต้องต่อสู้เรียนรู้ชีวิตจนได้พบกับทั้งมิตรและศัตรูจนนำไปสู่จุดพลิกผันของชีวิตครั้งใหญ่เมื่อเขาได้เป็นทหารเอกคู่ใจแห่งพระเจ้าตากสินมหาราช
บัวขาว บัญชาเมฆ นักแสดงนำของเรื่องได้เล่าให้เห็นถึงเส้นทางชีวิตของ ทองดี ฟันขาว ว่า
"คือเริ่มต้นตั้งแต่เด็ก ๆ ก็จะชื่อ จ้อย ก่อน เป็นเด็กในเมืองพิชัย พอโตมาเราก็จะเปลี่ยนชื่อเป็น ทองดี แต่จะรู้จักกันในฉายา ทองดี ฟันขาว เพราะว่าฟันขาวแตกต่างจากทุกคน เพราะเราจะไม่กินหมาก พ่อเราก็เป็นครูมวย รู้เกี่ยวกับวิชามวย แต่ไม่สอนวิชามวยให้ อยากให้ศึกษาเล่าเรียนไป แต่ในส่วนของทองดีก็คือ สนใจในการต่อสู้มากกว่า อยากเรียนวิชาหมัดมวย แต่พ่อไม่อยากให้เดินตามรอยพ่อ ไม่อยากจะให้มาเป็นเด็กอันธพาลเกเรไปชกต่อยกับชาวบ้านเค้า แต่ทองดีก็โดน เชิด ลูกเจ้าเมืองรังแกเสมอ จนวันหนึ่งเกิดเรื่องชกต่อยกันจนเชิดบาดเจ็บ เราก็เดือดร้อนอยู่ไม่ได้ละ ก็เลยต้องหนีออกจากหมู่บ้าน หนีจากพ่อแม่ไป ก็เลยต้องสนใจศึกษาเกี่ยวกับวิชามวยต่างๆเพื่อที่จะทำให้ตัวเองเก่งขึ้นมาเลยเป็นการเริ่มต้นหาวิชาความรู้เกี่ยวกับมวย, ดาบ, เหาะเหินตีลังกาไปเรื่อยๆ ต้องเดินทางไปแต่ละสำนักแต่ละค่ายที่ได้ยินว่ามีสอนวิชาต่าง ๆ ต้องร่อนเร่ไปเรื่อย โดยในใจของทองดี คือ ถ้าอยากจะเก่งเหนือใคร ก็ต้องไปหาครูที่เก่งกว่าเขาทางนั้น แล้วก็ต้องศึกษาว่าครูคนไหนที่เก่งด้านไหนก็จะต้องไปเรียนกับครูคนนั้นตามที่ได้ยินมาว่าเค้าเก่งจริง ๆ หลังจากที่เราแสวงหาได้เรียนวิชาต่าง ๆ จนตัวเองคิดว่ามีวิชามวยในตัว จากที่ไปศึกษาจากครูมวยทั่วทุกสารทิศละ ก็ได้ยินว่าเค้าจะมีการเปรียบมวยขึ้นชกเพื่อพิสูจน์ความเก่งของแต่ละคน แต่ละภาค แต่ละที่ ไหน ๆ เราก็ได้เรียนวิชามวยต่าง ๆ มาก็น่าจะไปประลองดูว่าจะเป็นยังไง ซึ่งจะต้องไปประลองหน้าพระที่นั่งของท่านพระยาตากด้วย"