เรียบง่ายแบบมินิมอล "The Red Turtle"
อนิเมชั่นเรื่อง The Red Turtle จัดว่าเป็นการ์ตูนที่เหมาะสำหรับเด็กน้อยที่สุดของจิบลิ งานด้านภาพนั้นเรียบง่ายในแบบมินิมอลและใช้สีอ่อนซีดรายละเอียดน้อย บทพูดแทบไม่มี เนื้อเรื่องเปิดมาด้วยการที่ชายคนหนึ่งตกเรือและถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวท่ามกลางผืนทะเล จนเขาถูกซัดมาที่เกาะร้างแห่งหนึ่ง ตัวเอกของเรื่องนั้นไม่เคยพูด หลักฐานชิ้นเดียวที่เราจะรู้เกี่ยวกับตัวเขานั้นคือในความฝันของเขา
ในทีแรกชายคนนี้พยายามที่จะหนีออกจากเกาะร้างด้วยการต่อแพที่สร้างขึ้นจากต้นไผ่ แต่เมื่อเดินทางไปได้ไม่เท่าไร เต่าทะเลยักษ์สีแดงก็ปรากฏตัวขึ้นและทำลายแพของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับไม่อยากให้เขาไปจากเกาะแห่งนี้ เพราะเหตุใดเต่าตัวนี้จึงอยากให้เขาอยู่ต่อ ปริศนานี้จะค่อยๆ คลี่คลายเมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างใจเย็น ความเงียบงันของเรื่องนี้เองที่ทำให้การเปรียบเปรยและสัญลักษณ์ต่างๆ เด่นชัดขึ้น
ต่อมาหญิงสาวคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นในทะเลอย่างไม่มีที่มาที่ไป เธอเองก็ไร้ซึ่งคำพูดใดๆ เช่นเดียวกัน ทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกันและสร้างครอบครัวเป็นประหนึ่งอดัมกับอีฟบนเกาะร้างแห่งนี้ แต่การดำรงชีวิตอยู่บนเกาะนั้นก็ไม่ได้ผาสุกตลอดเวลา มีเหตุการณ์ที่น่ากลัวหลายอย่างเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติอย่างพายุสึนามิที่พร้อมจะพัดทำลายทุกสิ่งบนเกาะที่พวกเขาสร้างขึ้นมา หรืออุบัติเหตุที่ลูกชายตกลงไปในบ่อน้ำลึกที่น่ากลัว
ผู้กำกับชาวเนเธอร์แลนด์ ไมเคิล ดูด๊อค เดอ วิท (Michael Dudok de Wit) เปิดโอกาสให้ผู้ชมสามารถตีความทุกสิ่งทุกอย่างได้เอง เขาหลีกเลี่ยงที่จะใส่ความหมายเป็นคำพูดหรือลายลักษณ์อักษร เส้นสายที่เลือกใช้ก็เรียบง่ายอย่างที่สุดแต่กลับให้อารมณ์ของงานศิลปะแฮนด์เมด แม้ว่าจะวาดด้วยเมาส์ปากกาก็ตาม ความเรียบง่ายของตัวละครนั้นตัดกับฉากหลักของธรรมชาติได้อย่างน่าสนใจ และแม้จะเป็นผู้กำกับชาวตะวันตก แต่อนิเมชั่นเรื่องนี้ของเขากลับโอบกอดความสงบของดินแดนตะวันออกอย่างแนบแน่น เนื่องจากเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานหมึกและสีน้ำของจีนและญี่ปุ่น ส่วนความเหนือจริงและบรรยากาศของเรื่องไปในแนวทางเดียวกับอนิเมชั่นเรื่องอื่นๆ ของจิบลิได้เป็นอย่างดี
