ภารกิจลับแมคอาร์เธอร์ "Operation Chromite"
Operation Chromite สร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในวันที่ 25 มิถุนายน 1950 เกาหลีเหนือเข้ายึดครองเกาหลีใต้ โดยการสนับสนุนจากชาติรัสเซียและจีน ภายใน 3 วันยึดเมืองหลวงของเกาหลีใต้กรุงโซล และเพียงหนึ่งเดือนก็ยึดกว่าค่อนประเทศจนมาถึงแม่น้ำนักโดง นายพลดักลาส แมคอาร์เธอร์ รับบทโดย เลียม นีสัน (Taken) วางแผนส่งหน่วยทหารลงสู่ท่าเรือของเมืองอินชอน หน่วยทหารดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า Operation Chromite ซึ่งโอกาสความสำเร็จของตัวภารกิจมีเพียง 1 ใน 5,000 แต่ถึงอย่างนั้น เมืองอินชอนถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ
ภายใต้คำสั่งของ นายพลแมคอาร์เธอร์ หน่วยสอดแนมลับภายใต้ชื่อ X RAY ถูกส่งเข้าไปแทรกตัวสู่ฝ่ายเกาหลีเหนือ เพื่อเตรียมการยึดครองอินชอนกลับคืน และเปิดทางให้กับกองทัพยูเอ็น เข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการ กัปตัน จาง ฮัก ซู รับบทโดย ลี จองแจ (Il Mare) และสมาชิกอีก 7 คน ปลอมตัวเป็นทหารสอดแนมของเกาหลีเหนือ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลการทหารต่าง ๆ ของเกาหลีเหนือ แต่ก็ถูกจับสังเกตได้โดยนายพลทหารของเกาหลีเหนือ อิม กเยจิน รับบทโดย ลี บอม ซู (Dr. Jin)
"Operation Chromite เป็นหนังสงคราม แต่เป็นหนังเกี่ยวกับมวลมนุษยชาติด้วย เพราะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่เพื่อเหตุผลอันมีค่า เราทุ่มเทความมุ่งมั่นตลอดการถ่ายทำด้วยหน้าที่ ผมเชื่อว่านี่เป็น 2 ชั่วโมงอันมีความหมายมากสำหรับผู้ชม" จอห์น เอช. ลี ผู้กำกับมากฝีมือที่ทำให้หนังเรื่อง A Moment to Remember กวาดรายได้มหาศาลทั่วเกาหลี นอกจากนี้เขายังกำกับหนังสงครามเรื่อง 71- Into the Fire รวมถึง The Third Way of Love อีกด้วย และสำหรับ Operation Chromite ผู้กำกับลีต้องการเล่าเหตุการณ์ยุทธภูมิอินชอนในแบบที่ไม่เคยมีใครเล่ามาก่อน "ไม่เพียงแต่นายพลแมคอาร์เธอร์ แต่มีหลายชีวิตนับไม่ถ้วนที่เสียสละเพื่อให้ภารกิจสำเร็จ มันเป็นความท้าทายที่จะเล่าเรื่องของพวกเขา และความสำคัญของเรื่องราวก็ไปไกลเกินกว่าขอบเขตของวิธีการทำหนัง" ผู้กำกับกล่าว
ขณะเดียวกัน แม้หนังจะดูมีท่าทีเชิดชูวีรกรรมครั้งนี้ แต่ในทางกลับกัน ผู้กำกับก็เล่าถึงเจตนารมณ์ของตัวเองว่า ต้องการรื้อถอนภาพของวีรบุรุษหรือฮีโร่ให้เป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ จับต้องได้ และมีข้อบกพร่อง "ผมคิดว่าฮีโร่คือคนที่ตระหนักถึงความเป็นไปได้ในสถานการณ์ที่ดูเหมือนเ