"Dark Universe" อาณาจักรใหม่ครั้งสำคัญของ "Universal Monsters"
อสูรกายของแฟรงเกนสไตน์ สัตว์ประหลาดจากแบล็คลากูน มนุษย์หมาป่า มนุษย์ล่องหน มัมมี่ ที่ว่ามาทั้งหมดนี้คืออสูรกายชื่อดัง ทั้งจากยุคอดีตและปัจจุบันของยูนิเวอร์แซล ซึ่งเคยเป็นภาพที่ตามหลอกหลอนคนดูจนยากจะลืมเลือน และยังติดค้างอยู่ในใจไปชั่วชีวิต
หลังจากยูนิเวอร์แซลประกาศว่าได้เวลาปลุกเหล่าอสูรกายที่เคยสร้างชื่อให้กับสตูดิโอในยุคหนังขาวดำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง โดยขณะนี้มีการแคสต์นักแสดงมารับบทในหนังต่างๆ บ้างแล้ว เช่น จอห์นนี เด็ปป์ จะมารับหน้าที่ถ่ายทอดบทบาท The Invisible Man, ฆาเบียร์ บาร์เด็ม ในบท Frankenstein ส่วนที่มีการข้ามเส้นเรื่องมาเจอกันแล้วก็คือ รัสเซลล์ โครว ที่ปรากฏตัวในหนัง The Mummy ของ ทอม ครูส ในบท ด็อกเตอร์เฮนรี เจคเคิล และยังมีข่าวลือว่ายูนิเวอร์แซลกำลังหมายตาให้ สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน มารับหน้าที่นำใน Creature from the Black Lagoon ขึ้นจอด้วย
คริส มอร์แกน หนึ่งในหัวเรื่อใหญ่สำคัญในโปรเจกต์ใหญ่ครั้งนี้ บอกว่า จักรวาล Universal Monsters มีความแตกต่างไปจากจักรวาลหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Marvel หรือ DC "พวกมันเป็นภาพขยายจากผลงานของมนุษย์ หรือความหวาดกลัวของมนุษย์ เช่น แฟรงเกนสไตน์ก็เป็นผลมาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมและการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งมันก็ตั้งคำถามว่านี่เรากำลังเล่นบทพระเจ้าหรือไม่ ส่วนมนุษย์หมาป่าก็สะท้อนภาพความกังวลเมื่อคุณสูญเสียการควบคุมตัวเอง นี่คือคำถามที่สะท้อนความเป็นมนุษย์ ความกังวล ความกลัว ความมืดมน และความปรารถนา"
เมื่อทางยูนิเวอร์แซลตัดสินใจว่า The Mummy จะเป็นบทแรกในหนังชุดใหม่ของพวกเขา ผู้กำกับ อเล็กซ์ เคิร์ตซ์แมน และผู้อำนวยการสร้าง คริส มอร์แกน ได้พยายามสร้างรายละเอียดและโทนของเรื่องที่ฝังรากลึกในงานคลาสสิคสยองขวัญของยูนิเวอร์แซล ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็ต้องวางอยู่ในโลกยุคใหม่ด้วย
ทีมผู้สร้างทั้งหมดเชื่อมั่นว่า The Mummy ต้องวางเรื่องราวเอาไว้ในโลกสมัยใหม่ โดยตั้งคำถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามัมมี่หญิงที่เป็นตัวร้าย ที่มีความหิวกระหายที่จะแก้แค้นนานหลายร้อยปี ถูกปล่อยให้เป็นอิสระในโลกยุคปัจจุบัน พร้อมกับสอดรับกับความยิ่งใหญ่ จริงจัง และอัดแน่นไปด้วยฉากแอ็คชั่นที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและความสนุก