อเมริกันดรีมไกลถึงซาอุ? "A Hologram for the King"
นี่คือภาพยนตร์อเมริกันดรีมที่พาเราไปไกลถึงซาอุดิอาระเบีย โดยผู้กำกับ ทอม ทิคแวร์ (Cloud Atlas) สร้างมาจากนวนิยายของ เดฟ เอกเกอร์ส เมื่อ ทอม แฮงค์ส คือชายผู้พบว่าชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นแค่เรื่องตลกและตัดสินใจเดินทางไปแสวงโชคในดินแดนอันไกลโพ้นที่เขาแทบไม่รู้จัก ฉากเปิดของเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งในฉากที่น่าจดจำของเขาเลยทีเดียว เขาเดินไปพร้อมกับพูดเนื้อเพลง How did I get here ของ วิลเลียม ชัตเนอร์ ในขณะที่รถ บ้าน และภรรยาของเขากำลังสลายหายวับเป็นควันสีม่วง
เราพอเข้าใจสถานการณ์ชีวิตของ อลัน เคลย์ (ทอม แฮงค์ส) ได้บ้างจากฉากเปิดกึ่งแฟนตาซีดังกล่าว อดีตผู้ให้คำปรึกษาด้านอาชีพที่ประสบพิษเศรษฐกิจ สูญเสียบ้านและรถ หย่าขาดกับภรรยา และตัดสินใจละทิ้งทุกสิ่งเพื่อบินไปยังเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ด้วยความหวังว่าจะสามารถขายเครื่องฉายโฮโลแกรมให้กับกษัตริย์ซาอุฯ เพื่อใช้ในการประชุมร่วมได้ นี่เป็นความหวังสุดท้ายของเขาที่จะหาเงินมาจ่ายค่าเทอมให้กับลูกสาว กษัตริย์แห่งซาอุฯ มีพระราชประสงค์ที่จะสร้างเมืองขึ้นกลางทะเลทรายอันเวิ้งว้าง จุประชากรได้ 1.5 ล้านคนและคาดหวังจะให้แล้วเสร็จในปี 2025 อลันต้องอดทนเดินทางเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงทุกวันไปยังตึกศูนย์กลางของเมกะโปรเจคนี้ เพื่อพบกับพนักงานต้อนรับที่บอกเขาเสมอว่ากษัตริย์ไม่อยู่
ความเครียดเริ่มก่อตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่รู้ว่าโปรเจคนี้จะเกิดขึ้นจริงไหม แล้วกษัตริย์ซาอุฯ จะปรากฏตัวขึ้นวันใด เคลย์และทีมไอทีของเขาอาศัยอยู่ในเต้นท์กลางทะเลทรายที่ไม่มีแอร์ ไม่มีอาหาร และที่สำคัญ ไม่มีอินเตอร์เน็ท อย่างไรก็ดี เขายังได้พบมิตรภาพจากคนขับรถ ยูเซฟ (อเล็กซานเดอร์ แบล็ค) ผู้คลั่งไคล้เพลงป๊อปอเมริกันและเคยร่ำเรียนในอะลาบาม่ามาก่อน เคลย์ต้องเรียกใช้คนขับรถตลอดเนื่องจากหลับเกินเวลารถบัสมาทุกเช้า กระทั่งวันหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไป เคลย์จึงตัดสินใจฝ่าฝืนกฏที่ห้ามเดินไปยังอีกฝั่งของล็อบบี้ เขาได้ทำลายวงจรอุบาทว์สิ้นหวังในชีวิตของเขาลง เมื่อขึ้นบันไดไป เคลย์กลับได้พบคนจำนวนมากที่รู้จักเขา และราวกับเฝ้ารอให้เขาขึ้นมาบนนี้นานแล้ว หนังพิศดารของทิคแวร์สามารถสร้างจุดเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เสมอ
ระหว่างนั้น จู่ๆ ก็เกิดมีก้อนประหลาดปรากฏขึ้นที่หลังของเคลย์ และน่าจะเป็นสาเหตุข