"7 แฝดสาว 7 บุคลิก" ท้าทายที่สุดของโลกแห่งการแสดง "What Happened to Monday"
"What Happened to Monday" โปรเจกต์แอคชั่น-ไซไฟสุดยอดพล็อตเหนือชั้นแห่งปีที่จะทำให้ทุกคนต้องทึ่ง ด้วยผลงานสุดฝีมือการแสดงของนักแสดงสาวแกร่ง นูมิ ราเพซ ที่แจ้งเกิดจากหนังเรื่อง The Girl with The Dragon Tattoo ก่อนจะโด่งดังกลายเป็นที่รู้จักของแฟนหนังทั่วโลกใน Prometheus เพราะงานนี้เธอต้องพบกับบทบาทที่เชื่อว่าท้าทายที่สุดของโลกแห่งการแสดง เมื่อต้องเล่นเป็น 7 แฝดสาว 7 บุคลิก ได้แก่ มันเดย์, ทิวสเดย์, เวนสเดย์, เธิร์สเดย์, ฟรายเดย์, แซตเทอร์เดย์ และ ซันเดย์ ที่ต้องสลับกันออกไปใช้ชีวิตได้เฉพาะในวันที่ตรงกับชื่อของตนเองเท่านั้น โดยทั้งเจ็ดสาวแชร์ตัวตนหนึ่งเดียวในนามว่า แคเรน เซตต์แมน นักธุรกิจสาวผู้ประสบความสำเร็จ เพื่อให้รอดพ้นจากกฎเหล็กของอนาคตโลกทมิฬที่อนุญาตให้หนึ่งครอบครัวมีลูกได้เพียงหนึ่งคน!
ขั้นตอนการพัฒนาตัวละครต้องใช้ความทุ่มเทของนักแสดงเป็นอย่างมาก ดังนั้นเมื่อได้ นูมิ ราเพซ ตกปากรับคำมาแสดงเป็นเจ็ดแฝดสาวพี่น้อง เธอเผชิญหน้ากับความท้าทายในแบบที่นักแสดงคนอื่นอาจจะไม่กล้าพอ นูมิคว้าโอกาสนี้ด้วยความกระตือรือร้นและความทุ่มเทแบบที่หลายๆ คนยกย่องเธอ เมื่อเธอเข้ามาสวมบทบาทจริงๆ เธอกล่าวว่า "มันบ้าและน่ากลัวมาก มันยากแต่สนุก มันคือสิ่งที่ท้าทายที่สุดในอาชีพนักแสดงของฉัน"
ด้านผู้กำกับ ทอมมี เวอร์โคลา รู้ดีว่า นูมิ ราเพซ สามารถทำให้ตัวละครทั้งเจ็ดเจิดจรัสขึ้นมาได้ "มันสำคัญมากที่ต้องสร้างกลิ่นอายบางบางอย่างขึ้นมาเพื่อช่วยคนดู เพราะคุณมีเวลาสั้นมากเพื่อแนะนำตัวละคร" เวอร์โคลาต้องการลงลึกถึงตัวละครมากกว่าปกติและแน่นอนว่าตัวนูมิเป็นนักแสดงที่สามารถตีความตัวละครทั้งเจ็ดนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม
หลังจากการซ้อมบทอย่างหนักหน่วงเพราะเธอต้องการเล่นฉากแอคชั่นสตันต์ต่างๆ ด้วยตัวเอง นูมิเผยความรู้สึกเพิ่มเติมว่า "ฉันรู้จักสาวๆ พวกนี้ดี ตอนแรกฉันคิดกับตัวเองว่า ฉันจะเล่นเป็นเจ็ดตัวละครในเรื่องเดียวได้ยังไง เราต้องการความสมจริงที่สุด ฉันจึงเริ่มคิดได้ว่าทั้งเจ็ดสาวคือมุมต่างๆ ที่เคยผ่านมาในชีวิตฉัน อย่างตอนฉันอายุ 13-14 ฉันออกแนวฮิปปี้เหมือนทิวสเดย์ ตอนฉันโตขึ้นมาหน่อยฉันเริ่มเหมือนเวนสเดย์เพราว่าฉันชอบกีฬาต่อสู้ แล้วมันก็มีช่วงที่ฉันเหมือนเธิร์สเดย์ที่เป็นเด็กพังก์ขี้โมโห และฉันยังเคยย้อมผมบลอนด์เหมือนแซตเทอร์เดย์ ฉันเลยเหมือนกับมองตัวเองผ่านอดีตในตัวละครเหล่านี้"
Credit : IMDB, sahamongkolfilm