ความสมจริง! จะทำให้เราลืมว่าดูหนัง "The Wailing"



The Wailing เล่าเรื่องของหมู่บ้านไกลปืนเที่ยงแห่งหนึ่งที่จู่ๆ ชาวบ้านก็เกิดคลั่งขึ้นมาอย่างไร้เหตุผลจนเป็นเหตุซึ่งนำมาสู่คดีฆาตกรรมอันน่าสยดสยอง จ็องกู นายตำรวจซึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องในคดีนี้เองก็ไม่เข้าใจในเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นนัก และจากในทีแรกซึ่งเขาเชื่อว่าต้นตอของพฤติกรรมวิปลาสสะเทือนขวัญมาจากเห็ดพิษซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสาท หากต่อมาจ็องกูก็เริ่มได้ยินข่าวลือประหลาดว่าเป็นเพราะการมาถึงของชาวญี่ปุ่นลึกลับคนหนึ่งต่างหากที่เป็นต้นสายนำความวิปริตมาสู่หมู่บ้านแห่งนี้


แน่นอนว่าเนื้อเรื่องไม่ได้มีแค่นี้เท่านั้น เรื่องเริ่มต้นเป็นเพียงแค่น้ำจิ้มที่จะลากคนดูเข้าสู่ความสับสนและความกลัวที่ไม่ใช่เพียงแค่การหลอกตุ้งแช่ของผีเหมือนหนังผีเรื่องอื่น ใครจะมองหาความน่ากลัวของผีจากเรื่องนี้คงจะไม่มี แต่ความกลัวที่เกิดขึ้นจะมาจากความคิด ความเชื่อของเราที่มีกับผีนี่มีแน่ ซึ่งหนังเล่นกัดกินเรื่องความเชื่อของคนเราได้ดีทีเดียว แน่นอนมันจะหลอนนานกว่าภาพผีที่โผล่มาหน้าเละใส่แล้วหายไป 


นอกจากเนื้อเรื่องที่ทำให้น่าติดตามไปจนจบ สิ่งที่ไม่ค่อยจะผิดหวังกับเกาหลีเลยก็คือการแสดงของนักแสดง ในเรื่องมันเหมือนเราอยู่ในนั้นด้วย ไม่ว่าจะคำพูด กิริยาท่าทางต่างๆสมจริงมาก การแสดงความเป็นคน ที่ไม่ได้จำแนกแค่ดีชั่ว แต่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ที่มีรักโลภโกรธหลงในตัวทุกคน อันนี้หมายถึงเรื่องอื่นๆด้วย ความสมจริงเหล่านี้มันจะทำให้เราลืมว่าเราดูหนัง ซึ่งมันเป็นอะไรที่สนุกจริงๆ แถมในหนังยังซ่อนคีย์เวิร์ดดึงสติให้เราฉุกคิดได้หลายเรื่องเลย


เมื่อต้นปี 2016 ที่ผ่านมา The Wailing ภาพยนตร์จากเกาหลีใต้ได้ไปกวาดคำชมและเสียงปรบมืออย่างถล่มถลายจากเหล่านักวิจารณ์ในเทศกาลหนังเมืองคานส์ นับเป็นอีกครั้งที่นาฮงจิน ผู้กำกับซึ่งตลอดชีวิตในสายภาพยนตร์ของเขาทำหนังยาวมาเพียงสามเรื่อง (The Chaser, The Yellow Sea และ The Wailing) ได้รับการยกย่องว่าหนังแต่ละเรื่องของเขาท้าทายกรอบขนบทางสังคมขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังเปิดเปลือยความจริงอันดำมืดซึ่งยากจะเบือนหน้าปฏิเสธ จากการวิพากษ์วิจารณ์ความอิเหลื่อยเฉื่อยแฉะของวงการตำรวจเกาหลีใต้ในหนังเรื่องแรก สู่การสำรวจสภาพชีวิตของคนชายขอบในหนังเรื่องถัดมา จนเมื่อมาถึงผ

Go to TOP