Film Focus : BD & DVD "127 Hours (2010)/127 ชั่วโมง" By Boom FM 90.5


เรื่องจริงของชัยชนะอันยิ่งใหญ่ โดยผู้กำกับรางวัลออสการ์จาก Slumdog Millionaire เข้าชิง 6 รางวัลออสการ์ รวมถึง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

เรื่องจริงของนักปีนเขาที่ชื่อ อารอน รัลสตัน (เจมส์ แฟรนโก) การผจญภัยสุดอัศจรรย์ เพื่อรักษาชีวิตของเขาหลังจากหินหล่นลงมาใส่แขน และทำให้เขาต้องติดอยู่อย่างโดดเดี่ยวในร่องหุบเขาที่ยูท่าห์ ตลอดช่วงการเดินทางของเขา รัลสตันหวนนึกถึงเพื่อนๆ, คนรัก (เคลเมนซ์ โพซี่), ครอบครัวและนักปีนเขาอีกทั้งสอง (แอมเบอร์ แทมบลิน และ เคต มาร่า) ที่เขาพบก่อนประสบอุบัติเหตุ เวลาผ่านไป 5 วัน รัลสตันต้องต่อสู้กับสิ่งแวดล้อมและสิ่งไม่ดีในตัวเขา จนค้นพบในตอนท้ายว่าเขามีความกล้าหาญ และวิถีทางที่ทำให้เขาหลุดพ้นออกมาได้ด้วยวิธีการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การหล่นลงมาจากหน้าผาความสูง 65 ฟุต และปีนเขาด้วยระยะที่มากกว่า 8 ไมล์ ก่อนที่เขาจะได้รับความช่วยเหลือในตอนท้าย ภาพยนตร์เป็นการบอกเล่าโครงสร้างการเล่าเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์ ภาพยนตร์เรื่อง 127 HOURS มีเนื้อหาเกี่ยวกับสัญชาตญาณและความตื่นเต้น ที่จะนำผู้ชมเข้าสู่ประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เคยพบมาก่อน และพิสูจน์ให้เห็นถึงสิ่งที่เราทำได้เมื่อเราต้องเลือกชีวิตเราเอาไว้

127 Hours เล่าเรื่องตามสถานการณ์ระยะเวลาที่เกิดขึ้นกับตัวละครหลัก ไม่มีการใช้ฉากย้อนอดีต หรือตัดฉากเล่าถึงความห่วงใยของผู้ใกล้ชิดของตัวละคร (มีการย้อนอดีตในฉากที่อารอนเริ่มเพ้อจากภาวะขาดน้ำจนเกิดภาพหลอน) นอกจากนี้หนังยังพยายามนำเสนอระบบความคิดและภาวะจิตใจของตัวละคร ผ่านการบันทึกเรื่องราวในกล้องแคมคอร์เดอร์ที่เขาพกติดตัวไปด้วย คนดูจะได้เห็นหลากหลายอารมณ์ของตัวละครผ่านการบันทึกภาพไปถึงฉากที่อารอนสั่งเสียไว้ในกล้องว่า หากใครก็ตามที่พบศพของเขา ให้ช่วยนำศพกลับไปสู่อ้อมกอดพ่อแม่ด้วย (เทปวิดีโอนี้มีอยู่จริง แต่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหน รัลสตันอนุญาตให้บอยล์และฟรังโก้ได้ดูภาพบางส่วนในวิดีโอม้วนนี้ ควบคู่ไปกับการสัมภาษณ์ เพื่อให้ฉากสำคัญนี้สมจริงมากที่สุด)

เจมส์ ฟรังโก นักแสดงที่อยู่ในหนังตลอดทั้งเรื่องให้การแสดงขั้นยอดเยี่ยม และถือเป็นอีกบทบาทที่ดีที่สุด บนเส้นทางการแสดงของเขา ฟรังโก้ดึงคนดูให้ติดตามหนังได้ตลอดทั้งเรื่อง เขาสามารถพาคนดูตกอยู่ในหลืบเขาไปพร้อมๆ กับอารอน ทั้งสร้างความตึงเครียดกดดันภายใต้สถานการณ์ยากลำบากได้อย่างอยู่หมัด

127 Hours มีฉากชวนหวาดเสียวอยู่พอสมควร อย่างฉากที่อารอนกระดูกหัก เขาจำต้องใช้มีดอันแสนทู่ตัดเนื้อบางส่วนทิ้งไป ฉากนี้เต็มไปด้วยเลือดและภาพที่ไม่ชวนมอง ใครหลายคนต้องเดินออกไปกลางคันระหว่างการฉายรอบทดลอง หรือไม่ก็ปิดตาหันไปทางอื่น ความสมจริงมากๆ ของ ฉากนี้อาจจะทำให้ใครหลายคนกินข้าวไม่ลงกันเลยทีเดียว

ความสำเร็จ 127 Hours อยู่ตรงที่ผู้กำกับแดนนี่ บอยล์ ถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างเข้มข้น ตรึงความสนใจจากคนดูได้ทุกวินาที รวมถึงการถ่ายทอดเรื่องราวดราม่าที่ไม่บีบเค้นอารมณ์คนดูจนเกินไป และไม่ลืมที่จะหยิบยื่นความหวังให้กับคนดูในท้ายที่สุด 127 Hours จึงเป็นหนังหลากหลายแนว ทั้งแอ็คชั่น ระทึกขวัญ ดราม่า ที่คละเคล้าไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกอันหลากหลาย และเป็นหนังที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง !!!


คิดถึง Home Entertainment คิดถึง

รายงานโดย MR.Numchok

[ www.facebook.com/Numchok Angkinan ]


ติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook Boomerang

Go to TOP