เมื่อความแค้นสอนให้เธอฆ่า และอดีตสั่งให้เธอล่าแบบ Non-Stop โดยผู้เขียนบท Taken และผู้ให้กำเนิด "นิกิต้า" และ "นักฆ่าลีออง"

คาตาลีย่า (โซอี้ ซัลดาน่า) หญิงสาวที่สั่งสมความแค้นมาตั้งแต่ได้เห็นพ่อแม่ถูกฆาตกรรมต่อหน้าด้วยวัยเพียง 10 ขวบ ด้วยใบสั่งเก็บตายจากฝีมือของอาชญากรตัวเอ้แห่งประเทศโคลัมเบีย คาตาลีย่า รอดมาได้ด้วยความบังเอิญ และแม้จะมีทางเลือกที่จะเดินสู่ชีวิตคนธรรมดา แต่เด็กหญิงคนนั้นกลับเลือกที่จะอุทิศชีวิตทั้งหมดเพื่อล้างบัญชีเลือดให้พ่อแม่ โดยมี เอมิลิโอ ลุงของเธอก็เป็นคนฝึกฝนให้เธอเป็นนักฆ่าสุดอันตราย เพื่อรับมือกับอิทธิพลทุกรูปแบบของคนที่สั่งสังหารทำลายครอบครัวของเธอ และเพื่อเติมความไม่ธรรมดาให้กับฉากแอคชั่น ลุค แบซง เลือก โอลิเวียร์ เมกะตง (Transporter 3) มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยร่วมมือกับผู้รับผิดชอบฉากสตันท์จาก The Bourne Ultimatum เพื่อให้ฉากดูดุดันและเร้าใจ โดยกว่า 98 % โซลอี้ แสดงฉากแอคชั่นด้วยตัวเอง

ทั้งที่หนังดูโปรดักชั่นใหญ่โต เน้นขายฉากแอ็คชั่นยิ่งใหญ่เอามันส์ ใครจะเชื่อถ้าบอกว่ามีทีมงานหลักแค่ 15 คน ที่เหลือคือทีมงานเสริมที่เข้ามาถ่ายทำเมื่อหนังย้ายโลเคชั่นไปที่ใหม่ โดยหนังถ่ายที่ 5 เมืองใหญ่ในอเมริกาและเม็กซิโก ผู้กำกับเมกะตงกล่าวว่าถึงจะผิดรูปแบบกองถ่ายปกติของฮอลลีวู้ด แต่เขาชอบแบบนี้เพราะฮอลลีวู้ดจะเคลื่อนไหวไม่ได้เร็วเท่าเรา ซึ่งการทำงานลักษณะนี้เรียกร้องความเป็นผู้นำจากผู้กำกับอย่างมาก เพราะต้องผูกสัมพันธ์กับทีมงานกลุ่มใหม่เมื่อย้ายโลเคชั่นทุกครั้ง และการทำงานแบบนี้ก็นำมาสู่การถ่ายทำที่ซับซ้อน ยกตัวอย่างเช่น ในฉากที่ตัวละครคาตาลีย่าเข้าไปสังหารตัวละครชื่อ นิซโซ่ นั้นต้องถ่ายทำถึงสามเมือง นางเอกอย่าง โซอี้ ซัลดาน่า ต้องถ่ายฉากถูกตำรวจจับที่เม็กซิโก ถ่ายฉากถูกจับขังคุกที่ฝรั่งเศส และถ่ายฉากขึ้นดาดฟ้าตึกที่เมืองนิวออร์ลีนส์

ผู้กำกับเมกะตงเปิดเผยว่า ได้ยึดตัวละครมาธิลด์จาก Leon: The Professional เป็นเสมือนต้นแบบของคาตาลีย่า แล้วค่อยๆ ปรับเปลี่ยนลุคให้ร่วมสมัยยิ่งขึ้น โดยยืมสไตล์หนังทริลเลอร์แอ็คชั่นแบบ เจสัน บอร์น มาใช้กับตัวละครผู้หญิง โดยให้มันดูดุดัน จริงจัง เข้มข้น แล้วหน้าตาออกมาคนละแบบกับตอนที่เขาทำ The Transporter 3 ทำให้ผู้กำกับรู้สึกผูกพันกับโปรเจ็คนี้มาก เพราะทำให้เขานึกถึงโลกแบบเดียวกับใน Nikita และ Leon เลยทีเดียว

ดังนั้นคาตาลีย่าจึงเป็นนักฆ่าสาวที่รอบจัดทั้งการต่อสู้มือเปล่าและการใช้อาวุธสงครามแปลกตาหลายสิ่ง เป็นเจ้าของฉากใหญ่ทั้งการบุกถล่มรังโจร ต่อสู้ในที่จำกัดอย่างห้องน้ำกับห้องขัง และใช้อาวุธที่คว้าได้จากสิ่งใกล้มือ เหมือนที่แมตต์ เดม่อน เคยใช้ปากกาแทงคอคนตายมาแล้วใน The Bourne Identity โดยผู้กำกับได้เน้นย้ำถึงจุดยืนในหนังแอ็คชั่นเรื่องนี้ว่า ฉากต่อสู้ในหนังจะดูรุนแรงสมจริง มากกว่าจะถูกออกแบบมาให้ตายตัวและเน้นความสวยงามเพียงอย่างเดียว



รายงานโดย MR.Numchok

[ www.facebook.com/Numchok Angkinan ]