ภาพยนตร์ที่สร้างปรากฏการณ์เปิดตัวขึ้นอันดับหนึ่งถึง 3 สัปดาห์ซ้อน รายได้รวมเฉพาะอเมริกาทะลุ 100 ล้านเหรียญฯ การันตีคุณภาพด้วยกระแสตอบรับและคำชมจากนักวิจารณ์ทั่วโลก

เรื่องราวของเหล่าสาวใช้ผิวดำกับเจ้านายผิวขาว ในมลรัฐมิสซิซิปปี้ช่วงปีค.ศ.1960 ที่มีการแบ่งแยกชนชั้นและสีผิวกันอย่างชัดเจน, การจิกกัดแบบแสบๆคันๆตามประสานาย-บ่าว, และมิตรภาพของ 1 สาวผิวขาว กับ 2 สาวใช้ผิวสี ที่ร่วมโครงการเขียนหนังสือลับๆ เพื่อตีแผ่ชีวิตของเหล่าสาวใช้ผิวดำและพฤติกรรมแปลกๆของเจ้านายผิวขาว และท้าทายเส้นแบ่งทางสังคมที่อื้อฉาวที่สุดในยุคนั้น

จากทุนสร้าง 25 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยทำรายได้ไป 169 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นยอดรวมรายได้บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศล่าสุด (05/02/2012) คงเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ถึงความนิยมชมชอบของคนดูโดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงผิวดำที่มีต่อหนังเรื่องนี้ รายได้อันถล่มทลายนี้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักกับหนังที่มีผู้หญิงเป็นตัวดำเนินเรื่องทั้งหมด และแทบจะไม่มีนักแสดงนำที่เป็นแม่เหล็กที่จะดึงดูดเงินจากคนดู ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับ The Help แสดงให้เห็นว่าหนังโดนใจคนดูจนเกิดกระแสปากต่อปาก คนที่ดูแล้วก็กลับมาดูซ้ำอีกรอบ และที่สำคัญกลุ่มคนดูที่เป็นแรงผลักดันให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จได้นั่นคือกลุ่มคนแอฟริกันอเมริกันจำนวนมากที่อยู่ในอเมริกานั่นเอง

The Help เกิดจากคนเขียนบท/ผู้กำกับ เทด เทเลอร์ และ แคธลีน สต็อกเก็ทท์ คนเขียนนิยายเรื่องนี้ ทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กและเติบโตมาด้วยกันในเมืองแจ็คสัน รัฐมิซซิซิปปี้ในยุค 70 โดยเรื่องราวในหนังสือหยิบมาจากเรื่องราวในความทรงจำของสต็อกเก็ทท์มาถ่ายทอดเป็นตัวอักษร แต่เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะสต็อกเก็ทท์ใช้เวลาถึง 5 ปีในการเขียนนิยายเรื่องนี้หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์ 9/11 ไม่นาน เธอขอให้สำนักพิมพ์ต่างๆ พิจารณางานและตีพิมพ์กว่า 60 แห่งแต่ล้วนได้รับการปฏิเสธทั้งหมด จนเมื่อเธอเกือบจะล้มเลิกความตั้งใจและส่งนิยายให้เทเลอร์เพื่อนรักของเธออ่าน เทเลอร์ก็ตกหลุมรักนิยายเรื่องนี้ทันที และได้บอกกับสต็อกเก็ทท์ว่าจะได้รับการตีพิมพ์แน่นอน หรือถ้าไม่ได้ตีพิมพ์จริงๆ เขาจะเอามาสร้างเป็นหนังด้วยตัวเอง

นอกจากเรื่องราวดราม่าสอดแทรกอารมณ์ขันที่ The Help มีให้แล้ว ประเด็นที่น่าสนใจไม่น้อยคือเรื่องของการต่อสู้ของผู้หญิงในยุค 60 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดกระแสสังคมและการปฏิวัติต่างๆ มากมายทั้งระดับเล็กไปจนถึงระดับใหญ่ โดยเฉพาะกระแสแนวคิดสตรีนิยมหรือที่เรียกกันติดปากว่า เฟมินิสต์ โดยที่เรามักจะรับรู้ว่าผู้หญิงต่างตกอยู่ใต้อำนาจชายเป็นใหญ่และแทบไม่มีสิทธิมีเสียงเท่าเทียมผู้ชายในโลกของการทำงานและมักจะมีผู้หญิงหัวก้าวหน้าออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมระหว่างชายหญิงในยุคนั้นอย่างมากมาย

แต่สำหรับ The Help ทำให้คนดูหันกลับมามองในอีกมุมหนึ่งว่าบรรดาผู้หญิงที่ตะโกนสิทธิให้เท่าเทียมผู้ชาย หารู้ไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วพวกเธอก็ยังหนีไม่พ้นกรอบของการกดขี่ผู้หญิงด้วยกันเองอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งในเรื่องคือผู้หญิงผิวขาวที่กระทำต่อผู้หญิงผิวดำโดยเอาเรื่องสีผิวและชนชั้นมาเป็นตัวแบ่งแยกความแตกต่าง ซึ่งแคธลีนเองตั้งใจเขียนนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นตัวแทนเสียงของผู้หญิงผิวดำในช่วงเวลานั้น เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่ไม่เคยมีใครรับรู้มาก่อน แม้ว่าเรื่องทำนองนี้แทบจะเป็นเรื่องล้าสมัยในยุคปัจจุบัน แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องการแบ่งแยกสีผิวและชนชั้นหาได้หมดไปจากสังคมอเมริกันแล้วจริงๆ



รายงานโดย MR.Numchok

[ www.facebook.com/Numchok Angkinan ]