Film Focus By Boom FM 90.5 : DVD "The Twilight Saga : Breaking Dawn - Part 1(2011)"
บทสรุปแห่งรักนิรันดร์ จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น! โดยผู้กำกับ บิลล์ คอนดอน จาก Dreamgirls
หลังจากที่ เบลล่า (คริสเต็น สจ๊วต) ตัดสินใจจะใช้ชีวิตที่เหลือกับ เอ็ดเวิร์ด (โรเบิร์ต แพททินสัน) ทั้งสองแต่งงานกันและไปฮันนีมูนเหมือนคู่รักธรรมดาทั่วไป แต่แล้วการฮันนีมูนก็จบลงกะทันหัน เมื่อเบลล่าพบว่าตัวเองตั้งท้อง ลูกของเธอกับเอ็ดเวิร์ด ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และทำให้ครอบครัวคัลเลนต้องช่วยกันดูแลเบลล่า และหาข้อมูลเกี่ยวกับเด็กที่กำลังจะเกิดมา เพื่อจะรับมือให้ได้ พร้อมกับป้องกันไม่ให้ข่าวเล็ดลอดออกไปข้างนอก เพราะอาจเป็นการนำมาซึ่งสงครามระหว่างแวมไพร์ โดยเฉพาะผู้คุมกฎอย่างโวลตูรี่ ที่ถือว่า แวมไพร์เด็กคือตัวอันตรายและต้องถูกกำจัด ครอบครัวคัลเลนจึงต้องปกป้องเบลล่า และยังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าอย่าง เจคอบ (เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์) และหมาป่าจากควิตยูลอีกด้วย
อันที่จริงเรื่องราวของ Breaking Dawn ตามแบบฉบับในหนังสือไม่ได้จบแค่นี้ ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับเบลล่าและเด็กในท้องตามมาอีก เมื่อกลุ่มแวมไพร์โวลตูรี ต้องการตัวลูกของเบลล่าและเอ็ดเวิร์ดที่ชื่อ เรเนสเม พวกเขาจึงวางแผนกำจัดตระกูลคัลเลน การต่อสู้ครั้งสำคัญที่สุดของโลกแวมไพร์จึงเกิดขึ้น หากแต่ด้วยความยาวของหนังสือภาคภาษาอังกฤษที่หนาถึง 756 หน้า ทำให้หนังภาคสุดท้ายนี้ต้องแบ่งออกเป็นสองภาค เพื่อเรื่องราวเข้มข้นที่ทำให้แฟนพันธุ์แท้ต้องลุ้นระทึก
หลังจากสตูดิโอวางแผนเตรียมงานสร้าง รวมถึงได้นักแสดงนำทุกรายกลับมารับบทเป็นตัวละครตัวเดิมแน่นอน พวกเขาจึงเริ่มต้นค้นหาคนสำคัญของหนัง นั่นคือการเลือกผู้กำกับให้หนังเรื่องนี้ และที่ผ่านการคัดเลือกคือ บิลล์ คอนดอน ผู้กำกับและนักเขียนบทชาวอเมริกัน ที่เคยสร้างผลงานอย่างการเขียนบทให้หนัง Chicago และการกำกับหนังอย่าง Dreamgirls มาแล้ว
หนึ่งชุดสำคัญที่ใครๆต้องการเห็นจนต้องมีการงดถ่ายรูปในกองถ่ายคือชุดแต่งงานของเบลล่า ในหนังสือได้อธิบายไว้ว่า เป็นชุดผ้าซาตินที่มีกระดุมไข่มุกแถวยาวบริเวณด้านหลัง เบลล่าใส่แล้วสวยจนแม่ของเธออุทานว่าอย่างกับหลุดมาจากในหนังย้อนยุคของออสเตน สวยงามสง่าเหลือเกิน โดยรายละเอียดของดีไซเนอร์เจ้าของชุดมีการเปิดเผยว่าคือ เป็นผลงานของ คาโรไลน่า เฮอเรร่า ดีไซเนอร์ชื่อดังของอเมริกา และเชื่อว่าน่าจะติดอันดับเครื่องแต่งกายที่สวยที่สุดในโลกภาพยนตร์ได้อย่างไม่ยากเย็น
สำหรับเรื่องราวของ Breaking Dawn หลังดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ไปไม่กี่สัปดาห์ ความทุกข์ก็มาเยือนคู่รักทันทีที่เบลล่าตั้งท้อง แต่เด็กในท้องกลับเจริญเติบโตรวดเร็วผิดปกติ และทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย โดยที่โทนเรื่องจะเปลี่ยนแปลงไปทันที จากรักหวานซึ้งในช่วงแรก กลายเป็นเสี่ยงอันตรายมากขึ้น เมื่อทุกคนห่วงสวัสดิภาพเบลล่า หากแต่ไม่สามารถที่จะทำลายลูกในท้องของเธอได้ ซึ่งมีการคาดหมายว่า หากผู้กำกับคอนดอนกล้าที่จะทำ หนังเรื่องนี้อาจจะออกมาเป็นเรท R ได้ทันที เพราะนอกจากจะรักกันอย่างดูดดื่มในช่วงฮันนีมูน พอเบลล่าท้องขึ้นมา เด็กในท้องก็เริ่มออกอาการปีศาจ และจะทวีความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เด็กโตขึ้น และหากเลือกที่จะทำฉากคลอดให้ออกมาตรงกับที่ในหนังสือบรรยาย ภาพที่แฟนๆ จะได้เห็นในช่วงเวลานั้นคือเลือดเท่านั้น
ผู้กำกับกล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ฉากพวกนี้ถือเป็นงานที่ท้าทายมากๆ เรากำลังก้าวล้ำเข้าเส้นแบ่งที่เรียกว่า R ได้ง่ายมาก แต่ตัวของผู้กำกับเลือกที่ไม่ทำ จะไม่สื่อให้เห็นอะไรชัดแจ้ง ไม่มีฉากโป๊เปลือยบนเตียง ไม่มีการแสดงให้เห็นภาพเลือดแดงฉานเปรอะเปื้อนเต็มกำแพง เรารู้สึกท้าทายมากกว่าถ้าหากว่านำเสนอภาพในลักษณะที่ให้คนดูได้เติมเต็มตามจินตนาการเอาเอง ซึ่งจะทำให้น่าตื่นเต้น หรือสยดสยองยิ่งกว่าแสดงให้เห็นจริงๆ โดยผู้กำกับคอนดอนยังบอกอีกว่า ฉากความสัมพันธ์ที่สวยๆ งามๆ และเร่าร้อนได้ในหนังเรท PG-13 โดยไม่จำเป็นจะต้องสื่ออะไรที่ดูโจ่งแจ้งขนาดนั้นได้เหมือนกัน
รายงานโดย MR.Numchok
[ www.facebook.com/Numchok Angkinan ]