Film Focus By Boom FM 90.5 : DVD "Immortals (2011)"


แม้แต่ทวยเทพยังต้องการวีรบุรุษ จินตนาการใหม่จากผู้สร้าง 300

ไฮเพอร์เรียน (มิคกี้ รู้ค) กษัตริย์ผู้คลั่งอำนาจและกองทหารสุดโหดมีอำนาจสูงสุดในประเทศกรีก ทุกเมืองต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของ ไฮเพอร์เรียน และช่วยให้เขาเข้าใกล้เป้าหมายที่แท้จริง นั้นคือการปลดปล่อยพวกไททั่นส์ และขอยืมพลังเพื่อใช้สยบเหล่าเทพเจ้าบนภูเขาโอลิมปัส ดูเหมือนจะไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้ง ไฮเพอร์เรียน จนกระทั่งช่างสลักหินนามว่า เธซีอุส (เฮนรี่ คาวิลล์) ซึ่งแม่ของเขาถูกสมุนของ ไฮเพอร์เรียน สังหารอย่างโหดเหี้ยม การออกเดินทางเพื่อแก้แค้นทำให้ เธซีอุส ได้พบกับ เฟรดา (ฟรีด้า ปินโต้) หญิงสาวผู้ทำนายอนาคต ในนิมิตที่เธอเห็น เธซีอุส คือกุญแจสำคัญในการหยุดยั้งหายนะของโลกครั้งนี้ ด้วยความช่วยเหลือของทุกคน เธซีอุส ได้มุ่งหน้าเพื่อเดินตามพรมลิขิต และต่อสู้เพื่ออนาคตของมวลมนุษยชาติ

จุดเริ่มต้นของ Immortals เริ่มจากเรื่องสั้นที่เขียนโดย ชาร์ลี พาร์ลาพานิเดส และถูกพัฒนาจนกลายเป็นบทภาพยนตร์จากการร่วมมือกับพี่ชายของเขา วลาส พาร์ลาพานิเดส แต่ถึงแม้สองพี่น้องจะสร้างเรื่องขึ้นมาใหม่แต่พวกเขายังคงจิตวิญญาณของตำนานเทพเจ้ากรีกเอาไว้ โดยที่พวกเขาใช้ตัวละครในเทพนิยายกรีกทั้งหมด แต่ก็ใส่เรื่องราวและฉากหลังเพิ่มเติมเข้าไป หัวใจของมันยังเป็นเรื่องของผู้ชายที่เริ่มต้นจากการเป็นคนที่ไม่เชื่อในทุกสิ่ง ก่อนที่ความโกรธจะเป็นแรงผลักดันให้เขาออกเดินทางเพื่อล้างแค้น แต่สุดท้ายแล้วชะตาก็เปลี่ยนให้เขาเป็นวีรบุรุษ

การจะทำหนังมหากาพย์ให้ยิ่งใหญ่อลังการและยังต้องเป็นหนังที่สร้างความแปลกใหม่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่ได้ผู้กำกับที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล ซึ่งครั้งนี้นับเป็นความเหมาะสมที่ทางผู้อำนวยการสร้างหนังเลือก ทาร์เซ็ม ซิงค์ ผู้กำกับผู้ขึ้นชื่อในเรื่องภาพอันเลิศล้ำ และเนื้อหาลุ่มลึก ผู้มีผลงานเด่นๆ อย่าง The Cell และ The Fall แถมยังขึ้นชื่อในความบ้าพลังไม่ว่างานจะสเกลใหญ่เล็กแค่ไหน ผู้กำกับทาร์เซ็มจัดการได้หมด เขาอธิบายว่า ตัวเขาเป็นคนชอบเทพนิยายกรีก แต่ไม่ต้องการที่จะลอกจากต้นฉบับ โดยสนใจในความสัมพันธ์ระหว่างเทพเจ้ากับมนุษย์ ผู้กำกับจึงหยิบองค์ประกอบของต้นฉบับมาเป็นพื้นฐาน และเพิ่มเติมในสิ่งที่สอดคล้องกับยุคสมัยปัจจุบันเข้าไป ซึ่งตัวของเขาเองอยากจะพูดถึงเทพเจ้ากรีกตามมุมมองของตัวเอง แล้วสำรวจว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวาย และอิสระในการตัดสินใจส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตแค่ไหน

ส่วนงานทางด้านภาพนั้นทางทีมงานได้ใช้สปีดของกล้องความเร็วขนาด 500 เฟรม เริ่มที่จะทำให้ทุกอย่างดูช้าลง และถ้าปรับเป็น 1,000 การเคลื่อนไหวบางท่าแทบจะทำให้ทุกอย่างเหมือนอยู่กับที่ ซึ่งจะทำให้คนดูมองเห็นอีกมิติหนึ่งโดยไม่ต้องพึ่งสามมิติ มีเวลาที่ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดที่เกิดขึ้นได้หมด คนดูอาจจะคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวในกีฬาที่ใช้ความเร็ว แต่เมื่อลองปรับให้ทุกอย่างช้าลง คนดูก็จะรู้สึกได้ในอีกรูปแบบหนึ่งไปเลย

สำหรับใครที่นิยมหนังที่มีฉากแอ็คชั่นมันๆเร้าใจ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่จะทำให้คุณได้ชมกับฉากสู้สวยๆ แต่ดุเดือด สมจริง เพราะทีมงานทุ่มเทกว่า 6 เดือนก่อนการถ่ายทำ ผู้กำกับทาร์เซ็ม ซิงห์ ตัดสินใจว่าเขาต้องการฉากการต่อสู้ที่ดูจริงจังและน่าทึ่งมากที่สุด ให้มีการต่อสู้ระยะประชิดด้วยอาวุธทุกอย่างที่พวกเขามี มีบางครั้งที่ต้องอาศัยลวดสลิง แต่ก็ไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นไปกว่าการได้ต่อสู้กันแบบประชิดตัว ที่จะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกจริงๆ



รายงานโดย MR.Numchok

[ www.facebook.com/Numchok Angkinan ]

Go to TOP