Film Focus By Boom FM 90.5 : DVD "The Thing (2011)"
จงระวังคนข้างกายอาจกลายพันธุ์ โดนพวกมันเขมือบ ภาพยนตร์ที่คุณไว้ใจใครไม่ได้ แม้กระทั่งร่างกายของคุณเอง
แอนตาร์คติก้า ทวีปอันแสนงดงามจนน่าตื่นตะลึง มันยังเป็นที่ตั้งของสถานีอันแสนโดดเดี่ยวที่ซึ่งการค้นพบอันยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์กลับกลายเป็นภารกิจการเอาชีวิตรอด เมื่อทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติขุดสัตว์ต่างดาวขึ้นมาจากพื้น สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่เปลี่ยนรูปร่างได้ ถูกปลดปล่อยออกสู่อาณานิคมที่แสนโดดเดี่ยวแห่งนี้โดยบังเอิญ และมันมีความสามารถในการเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นแบบจำลองของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดได้เหมือนร้อยเปอร์เซ็นต์ หน้าตามันอาจเหมือนคุณหรือเรา แต่ภายใน มันไม่ใช่มนุษย์ ในภาพยนตร์ทริลเลอร์เรื่อง The Thing นี้ ความตื่นตกใจหวาดระแวงแพร่กระจายไปในหมู่นักค้นคว้าเมื่อพวกเขาเริ่มได้รับเชื้อจากสิ่งลึกลับจากดาวเคราะห์อื่นไปทีละคนๆ
นักธรณีวิทยา เคท ลอยด์ (แมรี่ เอลิซาเบธ วินสตีด) เดินทางมายังพื้นที่อันแสนห่างไกลและโดดเดี่ยวเพื่อทำการสำรวจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ระหว่างเข้าร่วมกับทีมวิทยาศาสตร์นอร์เวย์ที่เกิดไปพบยานอวกาศต่างดาวถูกฝังอยู่ใต้แผ่นน้ำแข็ง เธอค้นพบสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนจะตายไปแล้วเมื่อยานตกลงสู่โลกเมื่อหลายพันปีก่อน แต่เจ้าสัตว์ต่างดาวตัวนั้นแค่กำลังรอเวลาตื่นขึ้นมา
เมื่อการทดลองง่ายๆ กลับปลดปล่อยเอเลี่ยนออกมาจากการโดนขังด้วยความเย็นจัด เคทต้องร่วมมือกับนักบินประจำศูนย์ค้นคว้าที่ชื่อ คาร์เตอร์ (โจล เอ๊ดเกอร์ตัน) เพื่อปกป้องชีวิตทุกคนจากเอเลี่ยนตัวนี้ และท่ามกลางแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ เจ้าสัตว์ต่างดาวที่เป็นตัวปาราสิตสามารถเลียนแบบทุกสิ่งทุกอย่างที่มันสัมผัสโดน ทำให้มนุษย์ต้องหันมาต่อสู้กับมนุษย์ด้วยกันเองขณะที่มันพยายามเอาชีวิตรอดและขยายพันธุ์ต่อไป
The Thing คือเรื่องราวที่เป็นบทโหมโรงอันนำไปสู่ภาพยนตร์คลาสสิกปี 1982 ของ จอห์น คาร์เพนเตอร์ที่มีชื่อเรื่องเดียวกัน ผู้กำกับ แมทธิส ฟาน เฮย์นินเกน จูเนียร์ กล่าวถึงเวอร์ชั่นใหม่ของ The Thing ว่า จะไม่รีเมคแต่เป็นการเติมเต็มเรื่องราวที่เกิดก่อนหน้าของหนังฉบับปี 1982 ไปยังค่ายของพวกนักวิทยาศาสตร์ชาวนอร์เวย์ เนื่องจากผู้ชมไม่เคยเห็นว่าพวกกลุ่มคนในค่ายนี้ผจญความสยองจากภัยร้ายนี้อย่างไร เพราะสิ่งที่พวกเขาเหลือทิ้งเอาไว้มีแต่เพียงซากแห่งโศกนาฏกรรมครั้งสำคัญ โดยสานต่องานสร้างด้วยความพิถีพิถัน ในกองถ่ายตัวของผู้กำกับจะมีคอมพิวเตอร์ที่เก็บภาพจากหนังเวอร์ชั่นของ จอห์น คาร์เพนเตอร์ เอาไว้นับล้านภาพ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการถ่ายทำ และเลือกใช้การถ่ายทำด้วยฟิลม์ 35 มม. เพื่อให้ได้สไตล์ภาพที่เหมือนของดั้งเดิมมากที่สุด และไม่ใช้การดำเนินเรื่องตัดต่อฉับไวสไตล์หนังรุ่นใหม่ แต่จะเน้นการดำเนินเรื่องแบบเก่าๆที่จะค่อยๆ เก็บความตึงเครียดไว้ถึงขีดสุดก่อนค่อยระเบิดความสยอง
ฟาน เฮย์นินเกน จูเนียร์ ตั้งใจเอาไว้ว่าจะทำหนังที่ไม่ใช่แค่เรื่องราวสยองขวัญเกี่ยวกับเอเลี่ยนปะทะมนุษย์ธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ให้ความสำคัญไปที่เรื่องความสัมพันธ์ในหมู่มนุษย์ ที่ว่าคนเราปฏิบัติตนอย่างไร เมื่อเริ่มที่จะไม่ไว้วางใจคนอื่นๆ รอบข้าง เพราะไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นเอเลี่ยนแปลงร่างได้ สร้างความหวาดระแวงในกันและกันขึ้นมา ซึ่งจะหาทางรับมือกับมันอย่างไร แล้วความหวาดระแวงทำให้ผู้คนกลายมาเป็นปฏิปักษ์ต่อกันอย่างไร คือแก่นของเรื่องที่ผู้กำกับชอบตั้งแต่ในหนังเวอร์ชั่นของ จอห์น คาร์เพนเตอร์
รายงานโดย MR.Numchok
[ www.facebook.com/Numchok Angkinan ]