Inside DVD "The Lady (2011)"
ผู้กำกับลุค เบซงยอมรับสารภาพตามตรงว่าก่อนที่จะได้อ่านบทหนังเรื่อง The Lady เขารู้เรื่องของสตรีชาวพม่าผู้นี้เพียงแค่ปลายยอดเขาน้ำแข็งเท่าที่สื่อจะตีพิมพ์เท่านั้น นั่นคือเรื่องราวการต่อสู้ทางการเมืองและชีวิตที่ถูกลิดรอนสิทธิในบ้านเกิดเมืองนอนของซูจี ก่อนจะได้คนใกล้ชิดช่วยให้เห็นภาพรวมชีวิตของซูจีมากขึ้น เพื่อนำมารวมเข้ากับสิ่งที่ต้องการเล่าในหนังเรื่องนี้
เบซงเล่าถึงภาพรวมของหนังว่า เขาพยายามรักษาสมดุลระหว่างเรื่องราวการต่อสู้ทางการเมืองของซูจี กับความฝันและความยากลำบากที่เธอต้องประสบ ซึ่งการที่จะทำให้คนดูเชื่อได้สนิทใจนั้น หนังจะต้องการตัวร้าย หนังจึงต้องเล่าว่ารัฐบาลทหารพม่าปกครองประเทศอย่างเผด็จการป่าเถื่อนอย่างไร รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับทหาร ซึ่งเขายอมรับว่ามีการปรับแก้จากบทต้นฉบับอยู่ไม่น้อย แม้จะเป็นบทที่เบซงพอใจก็ตาม เพราะภาพรวมของบทภาพยนตร์ฉบับนั้นดูเป็นสารคดีมากเกินไป
ความยากลำบากข้อใหญ่ของเบซงคือ การไม่มีโอกาสได้พบปะกับซูจีตัวเป็นๆ เพื่อศึกษาข้อมูลเบื้องลึกเกี่ยวกับเธออย่างจริงจัง เขาได้แต่อาศัยหนังสือประมาณ 4 เล่ม เพื่อนำข้อมูลมาเติมเต็มเหตุการณ์ทั้งหมดในหนัง ซึ่งเชื่อมโยงเรื่องราวโดยให้ซูจีเป็นศูนย์กลาง โยงใยไปถึงความสำคัญของนายพลอองซาน ผู้เป็นบิดา และเครือข่ายความสัมพันธ์ของกลุ่มผู้สนับสนุนของเธอ ส่วนข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับเหล่านายพลผู้เถลิงอำนาจปกครองประเทศ เบซงมีเพียงข้อมูลขององค์กรด้านสิทธิมนุษยชน เช่น Amnesty เท่านั้นในการสร้างตัวละครขึ้นมา ก่อนจะลดโทนความรุนแรงลงเพื่อไม่ให้หนังมุ่งเป้าโจมตีทหารจนกินความส่วนอื่นของเรื่องไปหมด
ดังนั้นหนังจึงเน้นเรื่องราวของ ไมเคิล อริส เป็นพิเศษเพื่อให้เห็นทางแยกที่ซูจีต้องเลือก เพราะเธอถูกสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องเลือกระหว่างประเทศหรือครอบครัวของเธอ และหนังเลือกจบเมื่อสามีของเธอ ไมเคิล อริส เสียชีวิตที่ประเทศอังกฤษ โดยที่ซูจีไม่มีโอกาสได้ไปพบหน้าเขาในวาระสุดท้ายของชีวิต
รายงานโดย MR.Numchok
[ www.facebook.com/Numchok Angkinan ]