Inside BD & DVD The Darkest Hour "เอเลี่ยนมอสโคว สไตล์ผู้กำกับจาก Wanted"
รัสเซียเป็นสถานที่ไม่คุ้นตาของผู้ชมทั่วโลกส่วนใหญ่ เพราะมันไม่เคยเป็นจุดเด่นในหนังอเมริกัน แถมยังช่วยเพิ่มความรู้สึกโดดเดี่ยวของตัวละครเข้าไปด้วย เพื่อให้โปรเจกต์สำเร็จลุล่วง ภาพยนตร์ต้องเป็นเรื่องราวที่เข้าถึงได้และเกิดขึ้นในโลกที่มีลักษณะเฉพาะ เราจะหยิบเรื่องราวคลาสสิกเรื่องไหนมาก็ได้ แต่ถ้าย้ายมาที่มอสโคว มันจะกลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นขึ้นมาทันที ทิเมอร์ เบคแมมเบตอป ผู้กำกับจาก Wanted และ Night Watch ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ของ The Darkest Hour ได้อธิบายถึงสาเหตุของการเลือกใช้สถานที่ถ่ายทำของประเทศบ้านเกิดของเขากับภาพยนตร์เรื่องนี้
ถัดจากโลเคชั่นที่สวยงามแปลกใหม่ อีกสิ่งหนึ่งที่ทีมผู้สร้างของ The Darkest Hour ภูมิใจนำเสนออย่างที่สุดก็คือฝูงเอเลี่ยนที่มีรูปลักษณ์และคุณสมบัติแหวกแนวไม่ซ้ำใคร มนุษย์ต่างดาวในหนังเรื่องนี้จะมีอาวุธเด็ดคือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังสูงที่ทำให้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคทุกชนิดลัดวงจร และยังสามารถระบุตำแหน่งของมนุษย์ได้อย่างแม่นยำด้วยการจับกระแสประสาทภายในร่างกาย ก่อนจะฉีกร่างเหยื่อออกเป็นผุยผง ทั้งยังล่องหนเกือบตลอดเวลา โดยจะโผล่ออกมาให้เห็นเฉพาะวินาทีที่ถูกล้อมรอบด้วยระบบไฟฟ้าเท่านั้น
เบคแมมเบตอฟอธิบายว่า ถ้าอยู่ในที่มืดคุณจะปลอดภัย เพราะเวลาเอเลี่ยนบุกเข้ามาคุณจะเห็นแสงสว่าง แต่ถ้าคุณตกอยู่ในความมืด นั่นหมายความว่ามันไม่ได้อยู่รอบตัวคุณ ตัวละครทุกตัวจะพกหลอดไฟเอาไว้ ถ้ามันเริ่มกะพริบ แสดงว่าพวกมันกำลังมา นั่นคือวิธีที่พวกเขาใช้ปกป้องตัวเอง และเป็นวิธีที่มีเอกลักษณ์เอามากๆ
คริส โกแร็ค ผู้กำกับของ The Darkest Hour ที่มีผลงานภาพยนตร์แนวทริลเลอร์เรื่อง Right at Your Door (2006) ขยายความจุดเด่นในหนังของเขาว่า สัตว์ประหลาดในหนังไม่ได้เป็นแค่สิ่งมีชีวิต แต่พวกมันยังล่องหนได้ด้วยเกราะกำบังประจุกระแสไฟฟ้าที่ส่งผลกับสภาพแวดล้อมรอบตัว พลังของพวกมันเพิ่มขึ้นจากการดูดกลืนพลังงานของสิ่งแวดล้อม ไฟทั้งเมืองจึงดับลง และสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากคือไอเดียที่ว่าความมืดปลอดภัยกว่าแสงสว่าง นั่นคือสิ่งที่แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่เคยเห็นมา
รายงานโดย MR.Numchok
[ www.facebook.com/Numchok Angkinan ]