Inside BD & DVD War Horse "ครั้งแรกของสปีลเบิร์ก กำกับสัตว์ในฐานะดารานำ"


ถึงจะเคยทำหนังที่ม้า งู แมงมุม แมลง หนู เป็นตัวประกอบมาหลายเรื่อง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่สปีลเบิร์กต้องมากำกับสัตว์ในฐานะดารานำของเรื่อง เขาต้องเผชิญกับความท้าทายของการทำหนังที่ไม่ใช่แค่ต้องดูม้า แต่ยังต้องบังคับคนดูให้ดูมันไปพร้อมกับเขา สปีลเบิร์กต้องใส่ใจว่ามันกำลังทำอะไรอยู่และเข้าใจความรู้สึกของมัน นับว่าเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับสตีเว่น สปีลเบิร์กในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์

และหนึ่งในฉากที่สร้างความสยองขวัญให้สปีลเบิร์กก็คือ ฉากรบใหญ่ของทหารม้า ที่โจอี้ม้าตัวเอกของเรื่องจะเป็นคนนำทัพให้กัปตันและเหล่าทหารทั้งหมด สปีลเบิร์กเล่าให้ฟังว่า มีม้า 100 ตัวมาเข้าฉาก แต่ในหนังจะเหมือนมีมากกว่านั้นเพราะเขาเพิ่มจำนวนม้าในสองฉากด้วยการให้มันวิ่งผ่านไปเยอะๆ แล้วเอาภาพที่ถ่ายไว้ทั้งสองอันมารวมกันเพื่อให้ดูเหมือนมีม้า 200 ตัว มันน่าตื่นเต้น แต่น่ากลัว เพราะม้าจะวิ่งแล้วทำคนขี่ร่วงหรือชนกับม้าที่ข้างหลังไหม สปีลเบิร์กจะลุ้นเกือบตกเก้าอี้ทุกครั้งที่มีคนอยู่บนหลังม้าที่วิ่งด้วยความเร็วเสมอ

การถ่ายทำ War Horse เริ่มต้นขึ้นทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ โดยโปรดักชั่นดีไซเนอร์ ริค คาร์เตอร์ เป็นคนตระเวณหาโลเคชั่นต่างๆ ทั้งฟาร์มบ้านนอกที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว เขตพรมแดนระหว่างสองประเทสที่ยังไม่มีผู้ใดครอบครองที่สงครามปะทุขึ้นมา ก่อนที่ทีมงานกว่า 750 ชีวิตจะเข้าไปเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำหรับการถ่ายทำ โลเคชั่นหลักที่ใช้ในการถ่ายทำมี 7 แห่ง คือทุ่งหญ้าโล่งของดาร์ทมอร์ สนามบินร้างในเซอร์รีย์ ไปจนถึงที่ดินที่ไล่ระดับของคุคแห่งวิลลิงตัน ทางตะวันตกของลอนดอน โดยงานหนักสุดคือการสร้างเขตการสู้รบที่มีทั้งหลุมกระสุนปืนใหญ่ขนาดยักษ์ รถถังเก่า และสนามเพลาะ แต่สปีลเบิร์กบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในสมรภูมิแห่งนี้กลายเป็นงานเล็กน้อย เมื่อเทียบกับหาดโอฮามาใน Saving Private Ryan

แต่สิ่งที่หลายคนสงสัยคือ ฉากสงครามใน War Horse จะเหมือนกับใน Saving Private Ryan หรือไม่ เพราะนอกจากผู้กำกับแล้ว ผู้กำกับภาพก็เป็นคนเดิมคือ จานุส คามินสกี้ ที่คราวนี้จะใช้เทคนิคใหม่ด้วยการปรับชัตเตอร์ไปที่ 90 องศาเพื่อเพิ่มภาพสมจริงและคมชัด พร้อมติด Image Shaker ไว้ให้กล้องสั่นสำหรับฉากระเบิด โดยสปีลเบิร์กอธิบายการทำงานของผู้กำกับภาพคู่ใจว่า มันจะไม่ให้ความรู้สึกเหมือน Saving Private Ryan แน่นอน มันจะให้ความรู้สึกเหมือนภาพถ่ายโบราณ สีออกน้ำตาลเล็กน้อย ใช้เทคนิคคนละแบบกับที่ใช้ใน Saving Private Ryan จะเหมือนกันตรงแค่เป็นหนังสงครามและใช้แฮนด์เฮลล์ ซึ่งฉากแบบนี้จะออกมาไม่ดี ถ้าหากใช้ดอลลี่นิ่งๆ ในการถ่ายทำเท่านั้น



รายงานโดย MR.Numchok

[ www.facebook.com/Numchok Angkinan ]

Go to TOP