Inside DVD Midnight In Paris (2011) "จดหมายถึงนครแห่งความรัก! ฉบับวู้ดดี้ อัลเลน"
อะไรเป็นสาเหตุให้ Midnight In Paris กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในรอบ 25 ปีของ วู้ดดี้ อัลเลน หลายคนเชื่อว่าเพราะมนต์เสน่ห์ของปารีส ที่โรแมนติกชวนค้นหาได้ไม่รู้จบ ขณะบางคนยกเครดิตให้อารมณ์ถวิลหาอดีตของหนัง เมื่อนักเขียน (โอเวน วิลสัน) ในเรื่องย้อนเวลากลับไปพบกับศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ เออร์เนสต์ เฮมมิงเวย์, เอฟ. สก็อต ฟิทซ์เจอรัลด์, ซัลวาดอร์ ดาลี และ ปาโบล ปิกัสโซ เป็นต้น
Midnight In Paris นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่เป็นจดหมายรักของอัลเลนต่อนครแห่งความรัก โดยชื่อหนังเป็นสิ่งที่อัลเลนคิดได้ก่อนจะเริ่มเขียนบท จนกระทั่งเขาเกิดไอเดียให้ตัวละครเอกเดินเล่นบนถนนในกรุงปารีสยามค่ำคืน แล้วมีรถแวะมาจอด จากนั้นกลุ่มคนที่น่าสนใจลงจากรถมาพาตัวละครเอกของเขาออกไปผจญภัย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในความสำเร็จของหนังอยู่ตรงการคัดเลือกนักแสดงได้เหมาะกับบท โดยเฉพาะโอเวน วิลสันที่สวมวิญญาณเป็นอัลเลนได้อย่างยอดเยี่ยม ดูน่าเห็นใจและเปี่ยมเสน่ห์ในเวลาเดียวกัน บางทีการกำกับแบบไม่เจ้ากี้เจ้าการและเปิดกว้างของอัลเลนคงเป็นสาเหตุให้นักแสดงเกือบทุกคนอยากร่วมงานกับเขา ความไว้วางใจส่งผลให้นักแสดงกดดันตัวเองเพื่อมอบผลงานที่ดีที่สุด ดังจะเห็นว่าดาราในหนังของเขามักเดินหน้าเข้าชิงออสการ์และคว้ารางวัลมาครองอย่างต่อเนื่อง
โดยธีมแล้ว Midnight In Paris คล้ายคลึงกับผลงานชั้นเยี่ยมอีกเรื่องของอัลเลน นั่นคือ The Purple Rose of Cairo เกี่ยวกับแม่บ้านที่หนีชีวิตจำเจด้วยการไปดูหนังเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนวันหนึ่งตัวละครในหนังก็กระโดดออกมาทำความรู้จักเธอ กลิ่นอายแฟนตาซี และอารมณ์โรแมนติกอบอวลในหนังทั้งสองเรื่อง เช่นเดียวกับบทสรุปที่ว่าคนเราไม่อาจหลีกหนีความเป็นจริงในปัจจุบันได้ เพราะชีวิตเป็นเรื่องน่าผิดหวัง ผู้กำกับอัลเลนจึงคิดค้นแฟนตาซีขึ้นเพื่อปลอบประโลมใจ ดังจะเห็นได้ว่า กิล หลงใหลเสน่ห์ของปารีสในยุค 1920 จนไม่อยากกลับคืนสู่ปัจจุบัน ขณะที่ เอเดรียนา (มาริยง โกติญาร์) ผู้หญิงที่เขาตกหลุมรักในยุคนั้นกลับเห็นว่ายุค Belle Epoque (ปลายศตวรรษที่ 19 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1) น่าหลงใหลกว่าปัจจุบันของเธอมากมายนัก มนุษย์มักค้นหาหนทางที่จะไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่และมันเป็นไปได้เสมอ
รายงานโดย MR.Numchok
[ www.facebook.com/Numchok Angkinan ]