Inside BD & DVD The Artist (2011) "ความพยายามถ่ายทอดจิตวิญญาณของหนังเงียบ!"


ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หนังเงียบขาวดำ ถ่ายทำด้วยอัตราความเร็ว 22 เฟรมต่อวินาที และสัดส่วนภาพ 1.33 แบบเดียวกับภาพยนตร์ในยุคแรกจะประสบปัญหาในการหาเงินทุน แม้ว่าผลงานก่อนหน้านี้ของผู้กำกับ มิเชล ฮาซานาวิเชียส ซึ่งเป็นหนังล้อเลียนสายลับเรื่อง OSS 117: Cairo, Nest of Spies และ OSS 117: Lost in Rio จะทำเงินในฝรั่งเศสอย่างเป็นกอบเป็นกำ

แรกทีเดียวหนังมีชื่อว่า Beauty Spot มาก่อน ภายหลังจึงเปลี่ยนเป็น The Artist พร้อมไฟเขียวให้ทีมงานไปถ่ายทำกันที่ฮอลลีวู้ด เพราะมันเล่าเรื่องราวของซูเปอร์สตาร์หนังเงียบในทศวรรษ 1920 ที่ชีวิตผกผันสู่จุดตกต่ำพร้อมๆ กับการมาถึงของยุคหนังเสียง แต่ในสไตล์เดียวกับพล็อต A Star Is born นักแสดงหญิงหน้าใหม่กลับทะยานขึ้นเป็นดาวรุ่ง หนังจะติดตามชีวิตของทั้งสองควบคู่กัน ผสมเมโลดรามา เข้ากับโรแมนซ์ อารมณ์ขันแบบใช้ท่าทาง และการอ้างอิงหนังคลาสสิกมากมาย ตั้งแต่ Sunrise ไปจนถึง Citizen Kane, Vertigo และ Sunset Boulevard

จุดมุ่งหมายของฮาซานาวิเชียสไม่ใช่การสร้างหนังเงียบ แต่เป็นความพยายามถ่ายทอดให้เห็นจิตวิญญาณของหนังเงียบ ซึ่งเปิดโอกาสให้เขาแสดงความเคารพและเล่นสนุกกับบุคลิกของมันไปพร้อมๆ กัน เนื่องจากหนังยุคนั้นจะให้ วงออร์เคสตราเล่นเพลงคลอไปพร้อมกับหนัง ฮาซานาวิเชียสจึงจ้าง ลูโดวิก บูร์ มาแต่งสกอร์คารวะผลงานของ ชาร์ลี แชปลิน, แม็กซ์ สไตเนอร์ และ เบอร์นาร์ด เฮอร์แมน โดยผสมผสานความทันสมัยด้วยการสร้างธีมเพลงให้กับตัวละครแต่ละคน

ขณะเดียวกันการได้ดู The Artist ก็ทำให้เราตระหนักว่าภาพยนตร์ได้สูญเสียอะไรไปจากพัฒนาการด้านเทคนิค และบางทีโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าอาจไม่ใช่เพียงชะตากรรมที่พลิกผันของตัวละครเท่านั้น แต่เป็นบางอย่างที่ลึกซึ้งกว่า ลองนึกดูว่าหนังเรื่องนี้แม้จะถ่ายทำในอเมริกา แต่ความจริงเป็นหนังฝรั่งเศส นักแสดงสมทบหลายคนเป็นอเมริกัน แต่สองดารานำเป็นคนฝรั่งเศส กระนั้นด้วยความที่มันใช้ภาพสื่อสารเรื่องราว The Artist กลับกลายเป็นหนังที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ เข้าใจได้ และตลกไปกับมันได้



รายงานโดย MR.Numchok

[ www.facebook.com/Numchok Angkinan ]

Go to TOP