ผลงานพลิกแนวสู่งานแฟนตาซีผจญภัยฟอร์มยักษ์เป็นครั้งแรกของผู้กำกับหนังสยองจอมหักมุม เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน สร้างมาจากการ์ตูนทางโทรทัศน์ที่โด่งดังไปทั่วโลก

โลกถูกแบ่งเป็นอาณาจักรแห่งธาตุทั้งสี่อันได้แก่ ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ ที่อยู่กันอย่างเกื้อหนุนและปรองดอง จนเมื่อชนชาติไฟเปิดศึกอันโหดเหี้ยมกับชาติอื่นๆ หนึ่งศตวรรษผ่านพ้นไป การทำลายล้างยังคงไม่สิ้นสุด แต่แล้วร่างหนึ่งได้ถือกำเนิด เขาคือแอง เด็กน้อยแห่งธาตุลม (โนอาห์ ริงเกอร์) ซึ่งพบว่าเขาคือร่างอวตารที่มีพลังในการควบคุมธาตุทั้งสี่ แองร่วมมือกับคาตาระ เจ้าแห่งน้ำ (นิโคล่า เพลท์ซ) และซ็อกก้าเจ้าแห่งดิน (แจ็คสัน แร็ธโบน) พี่ชายของเธอ เพื่อกู้สมดุลในโลกที่ถูกแบ่งแยกด้วยสงคราม

Experience the thrilling live-action adventure based on the hit Nickelodeon series Avatar: The Last Airbender. Join Aang, an extraordinary boy with incredible “bending” powers, as he journeys through an exotic land filled with magical creatures and powerful friends. As the Avatar, he is the only one who can end the age-old conflict between the four nations: Air, Water, Earth and Fire. An inspirational journey, The Last Airbender is exciting entertainment for the entire family!

จุดเด่น The Last Airbender

ถ้าหากพูดถึงการนำเอาแอนิเมชั่นที่ฉายทางโทรทัศน์มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ คงไม่มีใครนึกถึงชื่อของผู้กำกับอย่าง เอ็ม. ไนท์ ชามาลาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นการ์ตูนแอ็คชั่นแฟนตาซี และการมาขึ้นจอใหญ่ต้องเต็มไปด้วยสเปเชียลเอฟเฟกต์มากมาย ซึ่งเป็นหนังสไตล์ที่เจ้าพ่อหนังเขย่าขวัญหักมุมผู้นี้ไม่เคยทำมาก่อน แต่จุดเริ่มต้นของโปรเจกต์นี้มาจากลูกสาวสองคนของชามาลาน ที่ให้เขาดูการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่มีชื่อว่า Avatar: The Last Airbender

แอนิเมชั่นต้นฉบับนั้นเป็นผลงานการสร้างสรรค์ของ ไมเคิล ดันเต้ ดิมาร์ติโน และ ไบรอัน โคเนียตโก้ ที่ฉายทางช่อง Nickelodeon ในปี 2005 มีเนื้อหาเกิดขึ้นในโลกที่มนุษย์แบ่งออกเป็น 4 เผ่าพันธุ์ตามธาตุที่พวกเขาสามารถควบคุมได้คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ แต่ละเผ่าพันธุ์เคยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จนกระทั่งธาตุไฟรุกรานชนชาติอื่นๆ ความหวังเดียวอยู่ที่ผู้มีพลังสามารถควบคุมธาตุทั้ง 4 ได้ ซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับ เป็นเวลากว่า 100 ปี จนกระทั่งร่างของเณรน้อย แอง ถูกค้นพบในน้ำแข็ง ทุกคนจึงเชื่อว่าเขาคืออวตารที่หายสาบสูญไป และจะนำความสงบสุขกลับมาสู่โลกนี้อีกครั้ง

นอกจากจะเป็นการหันมาทำหนังแฟนตาซีเอฟเฟกต์ล้นจอครั้งแรกแล้ว ถือเป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่ชามาลานดัดแปลงบทหนังจากผลงานของคนอื่น ไม่ใช่ไอเดียดั้งเดิมของตัวเองเหมือนผลงานที่ผ่านมา โดยเหตุผลอีกประการที่ทำให้ผู้กำกับเชื้อสายอินเดียอย่างเขาถูกใจแอนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นพิเศษก็คือปรัชญาแบบตะวันออกแท้ๆ ที่แฝงอยู่ในเนื้อหา อย่างแนวคิดแบบพุทธและฮินดูถูกแฝงอยุ่ในการ์ตูนเรื่องนี้ หรืออย่างคำว่า อวตาร ก็เป็นภาษาสันสกฤต และโดยเนื้อหาแล้วมันเกี่ยวกับ จิตวิญญาณ ความเป็นมนุษย์ ครอบครัว ซึ่งมันพูดในตัวของมันเอง

และการมาทำหนังที่ใช้ศิลปะการต่อสู้ในเรื่องนี้ก็ไม่ใช่หนังกังฟูธรรมดาๆ ที่ใช้หมัด เท้า และอาวุธทั่วไปอย่างมีดหรือปืน แต่เป็นธาตุทั้ง 4 อย่าง ดิน น้ำ ลม ไฟ ความยากของมันจึงเป็นการผสมผสานสเปเชียลเอฟเฟกต์เข้ากับนักแสดง ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่นักเรียนฝึกหัดสายเอฟเฟกต์เข้ากับนักแสดง ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ชามาลานต้องตีให้แตก และต้องถามตัวเองอยู่เสมอว่าต้องเปลี่ยนวิธีการกำกับหนังอย่างที่เขาเคยทำมาก่อนหรือไม่

“... ตอนที่ทำหนังทริลเลอร์ ผมวาดสตอรี่บอร์ดเอาไว้ทุกขั้นตอน แต่มีไว้ให้ผมและผู้กำกับภาพดูเท่านั้น ทีมงานคนอื่นไม่จำเป็นต้องดู เพราะเนื้อหามันเกิดขึ้นในโลกจริง ในเมืองเล็กๆ ที่ทุกคนสามารถตามได้ทัน ไม่เหมือนกับครั้งนี้ที่สเกลทุกอย่างมันใหญ่และซับซ้อน มีทีมงานเยอะขึ้น ทุนสร้างเยอะขึ้น มันจึงจำเป็นมากที่ผมต้องทำให้ทุกคนเห็นภาพรวมของหนังให้ชัดเจน ...”

MR.Numchok รายงาน
[ www.facebook.com/numchokmovietalk]